วันอังคารที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เซ็กส์โฟนกับช่วงอายุ

วัยรุ่น (18ปี - 22ปี)
อายุ 18 เป็นช่วงวัยรุ่นตอนปลายที่เหมาะสมกับการคุยเซ็กส์โฟนคือไม่เด็กเกินไป มีวุฒิภาวะ มีความรับผิดชอบเพียงพอ เริ่มเรียนในมหาวิทยาลัย สิ่งล่อตาล่อใจมีเยอะ เป็นช่วงที่คิดเรื่องเพศเยอะจึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม เซ็กส์โฟนจะช่วยเปิดประสบการณ์ใหม่ๆเหมาะกับทั้งหญิงและชาย ทำให้ได้รู้จักผู้คนมากขึ้น เป็นการเสริมสร้างประสบการณ์ชีวิตแบบไม่ต้องเปลืองเนื้อเปลืองตัวที่สำคัญระวังภาพหลุดคลิปหลุดกันให้ดี ควรจะโฟนอย่างเดียวไม่ควรเปิดกล้องคุยกัน ถ้าเปิดก็อย่าให้เห็นหน้า โฟนครั้งแรกๆแค่คุยอย่างเดียวก็ตื่นเต้นพอแล้ว ไม่ควรนัดเจอเพื่อสานสัมพันธ์กันต่อเพราะมีความเสี่ยงที่อาจจะถูกล่อลวง

วัยทำงาน (22ปี-40ปี)
ช่วงนี้คนโสดทำงานเครียดๆก็อยากจะมีเพื่อนคุยแก้เหงา เซ็กส์โฟนก็เป็นตัวช่วยที่ดี ส่วนคนไม่โสด มีแฟน มีครอบครัว แต่ต้องอยู่ห่างกันหรือความต้องการไม่ตรงกัน เรื่องเซ็กส์เข้ากันไม่ได้ เซ็กส์โฟนก็เป็นอีก 1 ทางออกที่ดีแต่เรื่องนี้ก็มีประเด็นที่อ่อนไหวมาก ถ้าแฟนจับได้อาจถึงขั้นบ้านแตก จะไปบอกกันตรงๆก็กลัวจะรับไม่ได้ จากประสบการณ์มีสาวๆที่มีคู่แล้วหลายคนที่ยังชื่นชอบเซ็กส์โฟนเพราะต้องการผ่อนคลายและความตื่นเต้นใหม่ๆ เรื่องนี้ผมแนะนำว่าให้ใช้วิจารณญานให้ดีครับ ถ้าคู่ของคุณเป็นคนเปิดกว้างกับเรื่องเซ็กส์ก็ควรจะบอกหรือขออนุญาตกันตรงๆเลย แต่ถ้ามองแล้วว่าคู่ของคุณเป็นคนที่หึงหวงมากๆไม่มีทางเข้าใจถ้าเลี่ยงได้คุณก็ควรจะเลี่ยงไม่เซ็กส์โฟน แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็จงทำอย่างเงียบๆเก็บหลักฐานให้มิดชิดครับ บอกคู่โฟนไปเลยว่าคุณไม่โสด อย่าไปหลอกเค้าว่าโสดหรือไปจีบเค้า ที่สำคัญห้ามเผลอใจไปหลงรักคู่โฟนเด็ดขาด และเตรียมรับสถานการณ์ให้ดีถ้าถูกจับได้

 วัย 40+
สำหรับหนุ่มใหญ่หรือสาวใหญ่วัย 40+ ก็ยังมีหนุ่มๆสาวๆอยากคุยด้วยเสมอครับ ได้ทั้งความสนุกและได้คำแนะนำดีๆประสบกรณ์ดีๆจากรุ่นใหญ่ถือเป็นกำไรของชีวิต




 

วางตัวอย่างไรไม่ให้หลงรักคู่โฟน

การคุยเซ็กส์โฟนถ้าเจอคนถูกใจจะทำให้เรารู้สึกรักได้ง่ายมาก ถ้าเราไม่เตรียมตัวเตรียมใจไว้ก่อนก็มีสิทธิ์จะตกหลุมรักได้ง่ายๆ  บางทีรู้สึกรักตั้งแต่ยังไม่ได้โฟนก็มี แค่ได้คุยนิดหน่อยก็รู้สึกว่าใช่ เคมีครงกัน คุยแล้วเคลิ้ม ฟินนน  ความจริงความรู้สึกแบบนี้ถือเป็นเรื่องดี ช่วยให้โฟนได้อย่างมีอรรถรส มีความรู้สึกสมจริงมากๆ  แต่ๆๆๆๆ จากประสบการณ์แล้วถ้าหลงรักขึ้นมาจริงๆมันจะทุกข์มากกว่าสุข ทั้งระแวง ทั้งคาดหวัง ทั้งหึงหวงกลัวเค้าจะแอบไปโฟนกะคนอื่น อยากให้เค้ามีเราคนเดียว ทักไปไม่ตอบ ทักผิดเวลา ไม่ว่างคุยเหมือนเดิม นั่น นี่ เยอะแยะ ที่สำคัญคือความเบื่อหน่ายต่อกัน ตอนแรกๆอาจจะรักกันมากกกกก แต่ไม่นานก็จะเบื่อ นี่คือเรื่องจริงที่เราไม่เคยนึกถึงตอนรักกันใหม่ แต่ถึงแม้จะรู้ของอย่างนี้มันก็ห้ามกันยากก แต่ก็มีวิธีป้องกันครับ  มีคนเคยแย้งว่าแล้วจะรู้ได้ไงว่าคู่โฟนของเราไม่ใช่คู่แท้ของเราจริงๆ อาจจะใช่ก็ได้นะถ้าคุณพร้อมจะยอมเสี่ยงและยอมเจ็บและที่สำคัญยังโสดด้วยกันทั้งคู่ แต่ถ้าคุณยังไม่อยากจะสานสัมพันธ์กับใครแบบลึกซึ้งลองใช้วิธีนี้ครับ

1. อย่าเปิดช่องว่าคุณว่างทุกวัน ป้องกันไม่ให้คู่โฟนของเราคาดหวังว่าเราจะมาโฟนกับเค้าทุกวัน อาจจะบอกว่ามีแฟนแล้ว หรืออยู่หอกับเพื่อน เข้าเวรดึก ทำงานไม่เป็นเวลา นี่จะเป็นการเพิ่มระยะห่างไปโดยอัตโนมัติ

2. อย่าเปิดช่องว่าเราคุยแชทได้ตลอดเวลา อย่าให้ไลน์หรือเฟสบุค การแชทกันจะยิ่งเพิ่มความสัมพันธ์ให้ลึกซึ้งซึ่งควรจะหลีกเลี่ยง ปกติถ้าไลน์ผูกกับเบอร์โทรมันจะเพิ่มเพื่อนอัตโนมัติดังนั้นหาทางป้องกันไว้ก่อน หาเบอร์พิเศษไว้ต่างหาก หรือไม่ก็บล็อกไลน์ไปเลย คุยเฉพาะเวลาที่เราว่าง ทำได้แบบนี้จากอารมณ์คิดถึงโหยหามากๆก็จะค่อยๆหายไปเอง เหลือไว้แค่ความทรงจำดีๆให้คิดถึงกันแบบห่างๆ

3. เว้นระยะห่างในการคุยประมาณอาทิตย์ละครั้งหรือตามความเหมาะสม

4. อย่าคุยถึงชีวิตส่วนตัวมากเกินไป คุยพอประมาณ บิ้วอารมณ์กันมาให้พร้อมพอเริ่มโทรก็จะได้เข้าเรื่องเลย


สรุปง่ายๆก็คือให้เว้นระยะห่างนั่นเองครับ และอย่าคุยลึกซึ้งมากเกินไป ถ้าเราคุยกันแบบห่างๆจะคุยกันได้ยาวเป็นปีๆก็ไม่มีเบื่อ แต่ถ้าเร่งคุยกันทุกวันไม่นานเกินเดือนก็จะเบื่อครับ